ดอกไม้มีหลายชนิด และยังมีความหมายของดอกไม้
ด้วยนะค่ะ
เรามาดูกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้างนะค่ะ
ดั่งนี้ ชนิดของดอกไม้ เช่น
(1) ดอกไม้ชนิดพุ่ม
1)กุหลาบ
เป็นไม้พุ่มตั้งหรือเลื้อย ใบเป็นใบประกอบ ประกอบด้วย 3 ใบ หรือ 5 ใบ ขอบใบจัก หูใบติดกับก้านใบหรือเป็นอิสระ
…กุหลาบหอมหวล | ส่งกลิ่นยียวนแสนยวนยั่วหัวใจ | |
ทั้งหอมทั้งหวาน | ดอกเพิ่งบานใหม่ ๆ … | |
…ฉันมั่นใจกุหลาบเป็นไม้งามละม่อม | ควรจะออมถนอมชม | |
ทุก ๆ คนพอใจมักเด็ดเอาไปดอมดม | หรือจะชมเสียบผมชื่นอุรา | |
สวยสีสรรค์ทุก ๆ พรรณสุดจะเด่น | กลิ่นเยือกเย็นสีที่เห็นไม่บาดตา | |
กลีบเกสรกลีบอ่อนซ้อนกันดูงามสง่า | ทุกเวลารวยรื่นนาสาน่าดม… | |
…ริมธารละลานไปด้วยบุปผา | ดอกแดงกุหลาบพนาสลับลัดดากล้วยไม้ไพร… |
2)ทองอุไร
3) เดือนฉาย
- เป็นไม้ล้มลุกพุ่มเตี้ยสูงประมาณ ๕๐ เซนติเมตร ใบเป็นใบเดี่ยว ไม่มีก้านใบ
- ดอกออกเป็นช่อกลมคล้ายดอกเดี่ยว ก้านดอกกลมยาว ช่อดอกมี ๒ แบบคือ ดอกที่อยู่วงนอกมักมีชั้นเดียว กลีบดอกเป็นแผ่นแบนบาง หรือเป็นหลอดเล็ก ๆ ดอกที่อยู่กลางช่อมีจำนวนมาก กลีบดอกเชื่อมกันเป็นท่อสั้น ๆ ดอกมีหลายสี เช่น ขาว เหลือง ส้ม และแดง
- ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด
4)บานเช้า
- เป็นไม้พุ่มขนาดเล็กสูงประมาณ ๓๐ เซนติเมตร ใบเป็นใบเดี่ยว เรียงสลับเวียนกัน สัณฐานเป็นรูปรี ปลายและโคนแหลม ขอบจัก
- ดอกออกตามยอดเป็นดอกเดี่ยว ดอกมี ๕ กลีบ เชื่อมติดกันที่โคนเป็นรูปปากแตร ดอกสีขาวนวล ตอนกลางสีนวล โคนกลีบสีเหลือง ดอกจะบานเวลาเช้าจนถึงใกล้เที่ยงจึงหุบ ดอกออกเกือบตลอดปี
- ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ดหรือปักชำ
5)ผกากรอง
- เป็นไม้พุ่ม ลำต้นสี่เหลี่ยม ใบเดี่ยวรูปไข่ ปลายแหลมออกเป็นคู่ตรงข้าม ยาวประมาณ 4 เซนติเมตร ผิวใบมีขน
- ดอกเป็นช่อกลม ก้านยาว มีดอกย่อยจำนวนมากเรียงตัวกันแน่น บนแกนช่อซึ่งหดสั้น ดอกบริเวณรอบนอกจะบานก่อน ดอกผกากรอง มีหลายสี เช่น แดง ส้ม ชมพู เหลือง และขาว เป็นต้น อาจมีสองสีใบดอกเดียวกัน ผลมีสัณฐานกลมขนาดเล็ก เมื่อสุกจะออกสีดำ
- ขยายพันธุ์ด้วยการปักชำ
5)ยี่โถ
(2)ดอกไม้ชนิดเป็นเถา
1)พวงคราม
ขยายพันธุ์ด้วยการปักชำกิ่งหรือการตอน
2)พวงชมพู
3)เล็บมือนาง
- เป็นไม้เถาเนื้อแข็ง ใบเป็นประเภทใบเดี่ยว ออกตรงข้ามกันเป็นคู่ มีสัณฐานรีหรือรีแกมขอบขนาน ใบกว้างประมาณ 3-9 เซนติเมตร ยาวประมาณ 5-18 เซนติเมตร โดยใบกลมปลายใบเรียวแหลม
- ดอกออกเป็นช่อใหญ่ ห้อยระย้า บริเวณยอดและง่ามใบ สีดอกแรกบานสีขาว จากนั้นเป็นสีชมพูและแดงเข้ม มีกลิ่นหอม ช่อดอกยาว 2-20 เซนติเมตร โดยดอกมีใบประดับ กลีบเลี้ยงสีเขียวอมเหลือง เขียนติดกันเป็นหลอดเล็กและยาวประมาณ 8 เซนติเมตร ปลายแยกเป็นแฉก 5 แฉก กลีบดอกมี 5 กลีบ ออกดอกตลอดปีพบขึ้นตามชายป่า นิยมปลูกเป็นไม้ประดับให้เลื้อยเป็นซุ้ม
- ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด การตอน หรือทับกิ่ง
(3)ไม้ยืนต้นที่ให้ดอกไม้
1)ชัยพฤกษ์
- เป็นไม้ต้นผลัดใบ สูงประมาณ ๑๕ เมตร เรือนยอดเป็นรูปร่ม เปลือกสีน้ำตาล ใบเป็นประเภทใบประกอบมีใบย่อย ผิวใบเกลี้ยง
- ออกดอกเป็นช่อคาบกิ่งเป็นช่อสั้น ๆ กลีบรองดอกทรงรูปไข่ปลายแหลมสีแดง กลีบดอกรูปไข่กลีบ สีชมพู เกสรตัวผู้มี ๑๐ อัน ขนาดไม่เท่ากัน ฝักกลมยาวสีดำ ผิวเกลี้ยงยาวประมาณ ๕๐ เซนติเมตร มีเมล็ดประมาณ ๖๐ เมล็ด ออกดอกเดือนกุมภาพันธ์ถึงเมษายน
- ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด
2)ตะลิงปริง
- เป็นไม้ต้นขนาดเล็กสูงประมาณ ๑๐ เมตร ใบเป็นประเภทใบประกอบแบบขนนกที่มีใบเดี่ยวอยู่ตอนปลาย มีใบย่อยประมาณ ๒๕ – ๔๕ ใบ ใบย่อยรูปขอบขนานแถบรูปหอก ปลายใบแหลมยาวประมาณ ๖ เซนติเมตร
- ออกดอกตามกิ่งข้างและตามลำต้นบนช่อดอกสั้น ๆ กลีบดอกสีม่วงแดง ผลยาวประมาณ ๕ เซนติเมตร รอบผลเป็นร่องมี ๕ ร่อง เมื่อสุกจะออกสีเขียวอมเหลือง ฉ่ำน้ำ เมล็ดแบนมีรสเปรี้ยว
- ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด และการทาบกิ่ง
3)ตะแบกนา
- เป็นไม้ต้นผลัดใบสูงประมาณ ๒๕ เมตร เรือนยอดเป็นพุ่มกลม เปลือกลำต้นเกลี้ยงผิวนวลเป็นมัน ใบเดี่ยวรูปหอก ยาวประมาณ ๑๕ เซนติเมตร
- ออกดอกเป็นช่อที่ปลายกิ่ง เมื่อดอกบานจะมีขนาดประมาณ ๒ เซนติเมตร กลีบดอกบานย่นสีม่วงอมชมพูแล้วเปลี่ยนเป็นสีชัด ผลรูปไข่ เมื่อผลแก่ออกสีน้ำตาล แตกอ้าออกเป็นหลายกลีบ เมล็ดแบนสีน้ำตาลมีปีก ออกดอกระหว่างเดือนเมษายนถึงกรกฎาคม ขึ้นตามป่าเบญจพรรณแทบทุกภาค และตามทุ่งนาทั่วไป
- ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด
4)ประดู่แดง
- เป็นไม้ต้นผลัดใบสูงประมาณ ๒๐ เมตร เรือนยอดแผ่กว้าง กิ่งลู่ลงดิน ใบเป็นประเภทใบประกอบ มีใบย่อย ๖-๑๐ คู่ ใบที่อยู่ปลายยอดจะเป็นคู่ที่ใหญ่ที่สุด ใบย่อย 2 ข้างมีขนาดไม่เท่ากัน ใบมีสัณฐานรูปไข่หรือรูปหอกผิวใบเกลี้ยง
- ออกดอกเป็นช่อเกาะเป็นกระจุกตามกิ่ง ๓-๕ กระจุก แตะละกระจุกมีประมาณ ๓-๕ ดอก กลีบรองดอกมี ๔ กลีบสีแดง กลีบคุ่มเหมือนเรือ เกสรสีแดง มีขนาดความยาวไม่เท่ากัน ผลเป็นฝักแบนรูปขอบขนานโค้งเล็กน้อยยาวประมาณ ๗ เซนติเมตร แต่ละฝักมี ๑ เมล็ด ออกดอกเดือนมกราคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ ดอกจะบานประมาณ ๒ สัปดาห์
- ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด
5)พี้จั่น
- เป็นไม้ต้นผลัดใบขนาดกลางสูงประมาณ ๑๒ เมตร โคนต้นเป็นพูพอนเล็กน้อย เรือนยอดเป็นพุ่มกลมทึบ เปลือกลำต้นสีดำแตกเป็นสะเก็ดเล็ก ๆ ใบเป็นแบบใบประกอบแบบขนนกเรียงตัวเป็นคู่ ๆ ปลายช่อใบจะมีใบย่อย ๑ ใบ
- ออกดอกเป็นช่อตามกิ่งข้าง หรือออกพร้อมกับใบที่ผลิใหม่ กลีบรองดอกสีม่วงเข้มเกือบดำ เมล็ดกลมแบน ออกดอก เดือนธันวาคมถึงมกราคม ขึ้นในป่าเบญจพรรณและป่าแดงทั่วไป
- ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด
6)ราชพฤกษ์
- เป็นไม้ต้นขนาดกลางสูงประมาณ ๑๓ เมตร เปลือกลำต้นเรียบเกลี้ยงสีเทาอ่อน ใบเป็นประเภทใบประกอบแบบขนนก มีใบย่อยประมาณ ๑๐ คู่
- ออกดอกเป็นช่อ ออกตามกิ่งข้างและห้อยลง ช่อดอกโปร่งยาวประมาณ ๓๐ เซนติเมตร ดอกมี ๕ กลีบ สีเหลืองสด หรือสีเหลืองแกมเขียว เกสรตัวผู้มี ๑๐ อัน ขนาดไม่เท่ากัน ผลเป็นฝักกลามยาวประมาณ ๕๐ เซนติเมตร ผิวเกลี้ยง เมื่อฝักแก่ จะเป็นสีน้ำตาลเข้มเกือบดำ เมล็ดรูปมนแบนสีน้ำตาลผิวเป็นมัน
- ออกดอกระหว่างเดือนกุมภาพันธุ์ถึงพฤษภาคม ขึ้นทุกภาคตามป่าเญจพรรณหรือป่าแดง นิยมปลูกเป็นไม้ประดับ
- ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด